1. ค้นหาตัวเอง
และคณะที่ตัวเองชอบ : การจะทำอะไรให้มันสำเร็จได้มันต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน
คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเป้าหมายของการสอบ Admission ก็คือทำคะแนน GAT/PAT
และ
O-NET ให้มันดี แต่จริง ๆ แล้วการวางเป้าหมายแค่นั้นมักไม่เพียงพอ
เพราะเวลาเราเหนื่อยเราท้อกับการอ่านหนังสือ เราจะเลิกความคิดที่จะทำคะแนนสูง ๆ
อีกต่อไป และสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะเราไม่มีหลักจริง ๆ
Tips: เทคนิคในการค้นหาตัวเอง และคณะที่ตัวเองชื่นชอบ
1) พิจารณาจากบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยส่วนตัว
2) พิจารณาจากความสามารถทางด้านวิชาการ
3) หาข้อมูลจากรุ่นพี่ๆประกอบการตัดสินใจ
Tips: เทคนิคในการค้นหาตัวเอง และคณะที่ตัวเองชื่นชอบ
1) พิจารณาจากบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยส่วนตัว
2) พิจารณาจากความสามารถทางด้านวิชาการ
3) หาข้อมูลจากรุ่นพี่ๆประกอบการตัดสินใจ
ลองเข้ามาทำแบบทดสอบค้นหาตัวเองได้ที่
http://www.trueplookpanya.com/true/quiz_holland_readiness.php
หรือไปดูว่าอาชีพต่าง ๆ เขาทำอะไร อย่างไร ต้องเรียนอะไร และที่ไหนมีสอนบ้างในรายการ I AM
2. รวบรวมข้อมูล : หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้วตัดสินใจได้ว่าอยากเรียนคณะอะไร หรืออยากทำอาชีพอะไรแล้ว คราวนี้เราก็มาหาที่เรียนกันโดยการรวบรวมข้อมูลของคณะที่เราอยากจะเข้า พิจารณาคณะที่เราต้องการในหลาย ๆ มหาวิทยาลัย ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการสมัครว่ามีวิธีการรับทางใดได้บ้าง เพราะในบางคณะจะมีวิธีการรับเข้าหลายวิธีด้วยกัน เช่น การรับตรง (โควต้า) หรือ การใช้คะแนน GAT/PAT รอบแรก นอกจากนั้นบางคณะยังมีภาคภาษาอังกฤษอีกด้วย เราจึงควรรวบรวมข้อมูลโดยอ้างอิงจากข้อมูลปีที่แล้วว่าจะมีการเปิดให้สมัคร และมีการสอบในช่วงใดของปี วิชาที่ใช้สอบและเนื้อหาข้อสอบ เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วให้เขียนไว้ในปฏิทินว่าช่วงไหนน่าจะมีอะไรเปิด บ้าง จากนั้นก็คอยติดตามข่าวจาก website คณะหรือมหาวิทยาลัย
ค้นหาข้อมูลสถาบันต่าง ๆ ได้ที่
http://www.trueplookpanya.com/true/guidance_after_m3.php?cms_category_id=122
3. ทดสอบตัวเอง : เมื่อรู้ข้อมูลวิชาที่ต้องการจะสอบแล้ว ให้ลองทำการจำลองการสอบด้วยตัวเอง จับเวลาให้เหมือนข้อสอบจริง และสอบให้ครบทุกวิชา ย้ำว่าต้องจับเวลาแบบจริงจัง จากนั้นก็ตรวจข้อสอบ แล้วดูคะแนนที่ทำได้ เทียบกับคะแนนต่ำสุดของคณะนั้นๆที่เราต้องการ แน่นอนว่าคะแนนของเราก็มักจะต่ำกว่าคะแนนต่ำสุด เพราะอาจจะมีอีกหลายบทที่ยังไม่ได้เรียน หรือยังไม่ได้ทบทวน คะแนนย่อมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่เราต้องการคือการประเมินว่าเราห่างจากเป้าหมายของเรามากแค่ไหน แล้วอะไรหรือวิชาใดที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าคณะนั้น
4. จัดตารางการอ่านหนังสือ : เมื่อรู้แล้วว่าอะไรคือจุดอ่อนของเรา วิชาใด หรือบทใดที่จำเป็นต่อการสอบ แต่เรายังมีความรู้ไม่แน่นพอ ตอนนี้ก็ถึงเวลาวางตารางการอ่านหนังสือ ระยะเวลาและความหนักเบาของการอ่านหนังสือนั้นไม่สามารถจะกำหนดได้ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเรียนรู้จดจำ และที่ขาดไม่ได้คือต้องประเมินว่าคณะที่เราเลือกมีคู่แข่ง และคะแนนต่ำสุดมากน้อยแค่ไหน การจัดตารางการอ่านหนังสือควรจะวางแผนอ่านหนังสือให้เสร็จ 1 เดือนก่อนวันสอบ เพราะว่า 1 เดือนไม่ควรจะมาทบทวนเนื้อหาแล้ว ควรจะฝึกทำโจทย์จับเวลาและเน้นพัฒนาด้านเทคนิคเท่านั้น
ทบทวนเนื้อหารการเรียนได้ที่รายการสอนศาสตร์
5. ตะลุยข้อสอบ : 1 เดือนก่อนวันสอบจริง ให้เริ่มทำข้อสอบเสมือนจริงและจับเวลาเสมือนจริง อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ส่วนวันอื่นๆก็ให้จัดตารางทำข้อสอบเป็นรายวิชาแยกไปแต่ละวัน ทุกๆอาทิตย์ก็ทำการประเมินว่ายังมีตรงไหนที่ไม่กระจ่าง ไม่เคลียร์ ทำการทบทวนและปรึกษาผู้รู้ หรือเพื่อนที่ถนัดวิชานั้นๆ มาช่วยก็ได้
ฝึกทำข้อสอบออนไลน์ได้ที่
http://www.trueplookpanya.com/true/guidance_after_m3.php?cms_category_id=122
6. ทำใจให้พร้อม : ฝึกสมองมามากแล้ว อย่าลืมฝึกจิตใจ หาเวลานั่งสมาธิเพื่อลดความประหม่า ยิ่งใกล้วันสอบ ยิ่งคณะที่เราเลือกมีการแข่งขันสูง ความประหม่าก็ยิ่งมา ความประหม่าและความเครียดอาจจะทำให้วันสำคัญของเราล้มเหลวได้ ดังนั้นขอให้เชื่อในความรู้และความสามารถของตัวเอง คิดซะว่าผลมันคือเรื่องรอง ความพยายามและความตั้งใจจริงคือสิ่งสำคัญที่สุดในการสอบ
7. เตรียมเอกสารและอุปกรณ์การสอบให้ครบ 1 วันก่อนวันสอบ : เตรียมเอกสาร เหลาดินสอ ปากกา ยางลบ และบัตรประจำตัวต่างๆไว้ในซองใสเตรียมให้ครบก่อนหน้าวันที่จะสอบ อย่าเตรียมของตอนเช้าของวันสอบ ความตื่นเต้น และความลนอาจจะทำให้เราเผลอลืมหยิบสิ่งสำคัญเหล่านี้ได้
http://www.trueplookpanya.com/true/quiz_holland_readiness.php
หรือไปดูว่าอาชีพต่าง ๆ เขาทำอะไร อย่างไร ต้องเรียนอะไร และที่ไหนมีสอนบ้างในรายการ I AM
2. รวบรวมข้อมูล : หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้วตัดสินใจได้ว่าอยากเรียนคณะอะไร หรืออยากทำอาชีพอะไรแล้ว คราวนี้เราก็มาหาที่เรียนกันโดยการรวบรวมข้อมูลของคณะที่เราอยากจะเข้า พิจารณาคณะที่เราต้องการในหลาย ๆ มหาวิทยาลัย ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการสมัครว่ามีวิธีการรับทางใดได้บ้าง เพราะในบางคณะจะมีวิธีการรับเข้าหลายวิธีด้วยกัน เช่น การรับตรง (โควต้า) หรือ การใช้คะแนน GAT/PAT รอบแรก นอกจากนั้นบางคณะยังมีภาคภาษาอังกฤษอีกด้วย เราจึงควรรวบรวมข้อมูลโดยอ้างอิงจากข้อมูลปีที่แล้วว่าจะมีการเปิดให้สมัคร และมีการสอบในช่วงใดของปี วิชาที่ใช้สอบและเนื้อหาข้อสอบ เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมดแล้วให้เขียนไว้ในปฏิทินว่าช่วงไหนน่าจะมีอะไรเปิด บ้าง จากนั้นก็คอยติดตามข่าวจาก website คณะหรือมหาวิทยาลัย
ค้นหาข้อมูลสถาบันต่าง ๆ ได้ที่
http://www.trueplookpanya.com/true/guidance_after_m3.php?cms_category_id=122
3. ทดสอบตัวเอง : เมื่อรู้ข้อมูลวิชาที่ต้องการจะสอบแล้ว ให้ลองทำการจำลองการสอบด้วยตัวเอง จับเวลาให้เหมือนข้อสอบจริง และสอบให้ครบทุกวิชา ย้ำว่าต้องจับเวลาแบบจริงจัง จากนั้นก็ตรวจข้อสอบ แล้วดูคะแนนที่ทำได้ เทียบกับคะแนนต่ำสุดของคณะนั้นๆที่เราต้องการ แน่นอนว่าคะแนนของเราก็มักจะต่ำกว่าคะแนนต่ำสุด เพราะอาจจะมีอีกหลายบทที่ยังไม่ได้เรียน หรือยังไม่ได้ทบทวน คะแนนย่อมน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่เราต้องการคือการประเมินว่าเราห่างจากเป้าหมายของเรามากแค่ไหน แล้วอะไรหรือวิชาใดที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าคณะนั้น
4. จัดตารางการอ่านหนังสือ : เมื่อรู้แล้วว่าอะไรคือจุดอ่อนของเรา วิชาใด หรือบทใดที่จำเป็นต่อการสอบ แต่เรายังมีความรู้ไม่แน่นพอ ตอนนี้ก็ถึงเวลาวางตารางการอ่านหนังสือ ระยะเวลาและความหนักเบาของการอ่านหนังสือนั้นไม่สามารถจะกำหนดได้ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเรียนรู้จดจำ และที่ขาดไม่ได้คือต้องประเมินว่าคณะที่เราเลือกมีคู่แข่ง และคะแนนต่ำสุดมากน้อยแค่ไหน การจัดตารางการอ่านหนังสือควรจะวางแผนอ่านหนังสือให้เสร็จ 1 เดือนก่อนวันสอบ เพราะว่า 1 เดือนไม่ควรจะมาทบทวนเนื้อหาแล้ว ควรจะฝึกทำโจทย์จับเวลาและเน้นพัฒนาด้านเทคนิคเท่านั้น
ทบทวนเนื้อหารการเรียนได้ที่รายการสอนศาสตร์
5. ตะลุยข้อสอบ : 1 เดือนก่อนวันสอบจริง ให้เริ่มทำข้อสอบเสมือนจริงและจับเวลาเสมือนจริง อาทิตย์ละ 1 ครั้ง ส่วนวันอื่นๆก็ให้จัดตารางทำข้อสอบเป็นรายวิชาแยกไปแต่ละวัน ทุกๆอาทิตย์ก็ทำการประเมินว่ายังมีตรงไหนที่ไม่กระจ่าง ไม่เคลียร์ ทำการทบทวนและปรึกษาผู้รู้ หรือเพื่อนที่ถนัดวิชานั้นๆ มาช่วยก็ได้
ฝึกทำข้อสอบออนไลน์ได้ที่
http://www.trueplookpanya.com/true/guidance_after_m3.php?cms_category_id=122
6. ทำใจให้พร้อม : ฝึกสมองมามากแล้ว อย่าลืมฝึกจิตใจ หาเวลานั่งสมาธิเพื่อลดความประหม่า ยิ่งใกล้วันสอบ ยิ่งคณะที่เราเลือกมีการแข่งขันสูง ความประหม่าก็ยิ่งมา ความประหม่าและความเครียดอาจจะทำให้วันสำคัญของเราล้มเหลวได้ ดังนั้นขอให้เชื่อในความรู้และความสามารถของตัวเอง คิดซะว่าผลมันคือเรื่องรอง ความพยายามและความตั้งใจจริงคือสิ่งสำคัญที่สุดในการสอบ
7. เตรียมเอกสารและอุปกรณ์การสอบให้ครบ 1 วันก่อนวันสอบ : เตรียมเอกสาร เหลาดินสอ ปากกา ยางลบ และบัตรประจำตัวต่างๆไว้ในซองใสเตรียมให้ครบก่อนหน้าวันที่จะสอบ อย่าเตรียมของตอนเช้าของวันสอบ ความตื่นเต้น และความลนอาจจะทำให้เราเผลอลืมหยิบสิ่งสำคัญเหล่านี้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น